การศึกษาพบไนเตรตในน้ำดื่มเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่

ไนเตรตในน้ำบาดาลและน้ำดื่ม ซึ่งส่วนใหญ่มาจากปุ๋ยที่ใช้ในการผลิตทางการเกษตร ไม่เพียงแต่อยู่ภายใต้การตระหนักรู้ด้านสิ่งแวดล้อมมานานหลายทศวรรษเท่านั้น แต่ยังถูกสงสัยว่าเพิ่มความเสี่ยงของโรคมะเร็งอีกด้วย การศึกษาทางระบาดวิทยาที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาในพื้นที่นี้แสดงให้เห็นว่ามีความสัมพันธ์กัน เช่น เมื่อปริมาณไนเตรตในน้ำดื่มต่ำกว่ามาตรฐานน้ำดื่มในปัจจุบันมาก ผลลัพธ์เพิ่งได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิทยาศาสตร์International Journal of Cancer เสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งแม้ใช้ไนเตรตในปริมาณเล็กน้อย นักวิจัยได้คำนวณปริมาณไนเตรตที่เดนส์ได้รับจากที่ที่พวกเขาอาศัยอยู่ และเปรียบเทียบสิ่งนี้กับข้อมูลเกี่ยวกับการวินิจฉัยโรคมะเร็งในเดนมาร์ก นักวิจัยสามารถติดตามชาวเดนมาร์กได้ทั้งหมด 2.7 ล้านคนในช่วงระหว่างปี พ.ศ. 2521-2554 และการศึกษานี้อาศัยการวิเคราะห์ไนเตรตจากตัวอย่างน้ำดื่มมากกว่า 200,000 ตัวอย่าง ทำให้การศึกษาครั้งนี้ใหญ่ที่สุดและมีรายละเอียดมากที่สุดในพื้นที่นี้ "ในแต่ละปี ชาวเดนมาร์กประมาณ 5,000 คนเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก ซึ่งอาจเกิดจากหลายสาเหตุ การศึกษาของเราแสดงให้เห็นว่าไนเตรตในน้ำดื่มอาจเป็นหนึ่งในนั้น ในการศึกษาผู้ที่สัมผัสกับไนเตรตที่มีความเข้มข้นสูงสุดในน้ำดื่ม (ด้านบน 9.3 มก. ต่อน้ำหนึ่งลิตร) มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นร้อยละ 15 ในการเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่เมื่อเทียบกับผู้ที่สัมผัสน้อยที่สุด (น้อยกว่า 1.3 มก. ต่อน้ำหนึ่งลิตร) มาตรฐานน้ำดื่มปัจจุบันคือ 50 มก. ไนเตรตต่อน้ำหนึ่งลิตร แต่ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของมะเร็งสามารถเห็นได้ที่ความเข้มข้นมากกว่าประมาณ 4 มก. ไนเตรตต่อน้ำหนึ่งลิตร" Jörg Schullehner, PhD จาก Department of Public Health at Aarhus University กล่าวเขาเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังผลการวิจัยร่วมกับนักวิจัยจาก Geological Survey of Denmark and Greenland (GEUS) และ National Center for Register-based Research ที่ Aarhus University มาตรฐานน้ำดื่มในเดนมาร์กและสหภาพยุโรปเป็นไปตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก WHO คำแนะนำเหล่านี้ได้รับการพิจารณาเพื่อหลีกเลี่ยงกรณีของ 'Blue Baby Syndrome' ซึ่งพิษของไนไตรต์จะขัดขวางความอิ่มตัวของออกซิเจนในร่างกาย โรคนี้มีผลกับทารกเท่านั้นและไม่ค่อยเกิดขึ้นในเดนมาร์ก ควรพิจารณามาตรฐานน้ำดื่มเสียใหม่ ผลการวิจัยยืนยันความสงสัยที่มีมาช้านาน ไนเตรตนั้นเพิ่มความเสี่ยงของมะเร็งลำไส้และทวารหนัก ความเสี่ยงต่อสุขภาพเกิดขึ้นเมื่อไนเตรตถูกเปลี่ยนเป็นสารก่อมะเร็งที่เรียกว่าสารประกอบ N-ไนโตรโซในร่างกาย มะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนักเป็นมะเร็งรูปแบบหนึ่งที่พบได้บ่อยที่สุดในเดนมาร์กและพบบ่อยเป็นอันดับสามของโลก "ข้อสรุปในการศึกษาของเราสอดคล้องกับผลการศึกษาในต่างประเทศหลายชิ้น ซึ่งบ่งชี้ว่ามาตรฐานน้ำดื่มควรต่ำกว่านี้เพื่อป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพแบบเรื้อรัง ไม่ใช่แค่ผลกระทบเฉียบพลัน เช่น โรคบลูเบบี้ซินโดรม ด้วยผลลัพธ์ที่เหมือนกัน จากการศึกษาที่แตกต่างกัน ประเด็นนี้ชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นในการพิจารณามาตรฐานน้ำดื่มใหม่" ศาสตราจารย์ทอร์เบน ซิกส์การ์ด จากภาควิชาสาธารณสุขของมหาวิทยาลัยออร์ฮุส ผู้มีส่วนร่วมในโครงการวิจัยกล่าว ความเข้มข้นของไนเตรตโดยทั่วไปจะต่ำ การวิจัยจาก GEUS แสดงให้เห็นว่าในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา ความเข้มข้นของไนเตรตได้ลดลงที่ระบบประปาสาธารณะ ซึ่งคนส่วนใหญ่ในเดนมาร์กใช้น้ำ "ความเข้มข้นของไนเตรตต่ำในระบบประปาสาธารณะส่วนใหญ่ ทุกวันนี้ ปัญหาส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ในบ่อน้ำส่วนตัวขนาดเล็ก เช่นเดียวกับสถานที่ที่มีการชะล้างไนเตรตสูง และที่ซึ่งสภาพดินและธรณีวิทยาในท้องถิ่นทำให้ไนเตรตสามารถถูกชะล้างได้ง่ายขึ้น สู่น้ำใต้ดิน ดังนั้นจึงเหมาะสมที่จะมุ่งเน้นความพยายามของเราที่นี่" Jörg Schullehner กล่าว