ธัมมะที่ควรรับรู้
โดย:
pramaha
[IP: 58.11.142.xxx]
เมื่อ: 2012-08-31 05:14:09
สัตว์ที่อยู๋ในภูมิ3 กำเนิด4 มีขันธ์5ขัน มีขันธ์ 4 ขัน มีขันธ์ 1 ขันธ์
ช่วยอธิบายหน่อย ใครตอบได้ มีไอโฟนให้ ด่วนด่วน
ช่วยอธิบายหน่อย ใครตอบได้ มีไอโฟนให้ ด่วนด่วน
กำเนิดขึ้นจาก ชะลาพุชะ , อัญทะชะ , สังเสทะชะ , โอปะปาติกะ
มีขันธ์ 5 ขันธ์ คือ สัตว์ที่มีขันธ์ 5 ขันธ์ ได้แก่
1.หมู่สัตว์ทุกประเภทที่เกิดในกามภพ ได้ แก่ภพอันเป็นที่เกิดและอาศัยอยู่ของหมู่สัตว์ผู้ยังมีใจยึดติดเพลิดเพลินอยู่ กับกามคุณ 5 ได้แก่ รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส หมู่สัตว์ที่เกิดอยู่ในกามภพมีทั้ง สุคติภูมิ ( คือโลกมนุษย์ 1 และสวรรค์ 6) และทุคติภูมิ (คือ อบายภูมิ 4 ได้แก่ นรก เปรต ยักษ์ สัตว์เดรัจฉาน)
2.รูปพรหมที่อาศัยอยู่ในรูปภพทั้งหมด ยกเว้น รูปพรหมชั้นอสัญญีสัตว์ รูปภพคือภพอันเป็นที่เกิดและที่อาศัยของรูปพรหมทั้ง 4 ภูมิ ซึ่ง แบ่งตามระดับจิตที่เข้าถึงฌาน 4ระดับคือ ปฐมฌาน ทุติยฌาน ตติยฌาน และ จตุตถฌาน (แต่ละภูมิแบ่งเป็นภูมิย่อยภูมิละ 4 ชั้น รวมเป็นรูปพรหม 16ชั้น)
สัตว์ที่มีขันธ์ 4 ขันธ์ ได้แก่อรูปพรหมที่อาศัยอยู่ในอรูปภพทั้งหมด เป็นพรหมที่ไม่มีรูปขันธ์มีแต่นามขันธ์ 4 ขันธ์
อรูปพรหม คือบุคคลที่ได้อรูปฌานแต่เกิดความรู้สึกเบื่อหน่ายในรูปขันธ์เพราะพิจารณาว่ารูปขันธ์คืออายตนภายนอก อันประกอบด้วย ตาหู จมูก ลิ้น กาย เป็นสื่อในการรับรู้ของรูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส อันเป็นเหตุให้เกิดทุกข์ จึงรังเกียจรูปขันธ์ ด้วยเหตุที่กระทำไว้ในใจและยึดถืออยู่อย่างนี้เมื่อตายหรือดับจิตลงในขณะจิตที่อยู่ในอรูปฌาน จึงไปเกิดในอรูปภพ
สัตว์ที่มีขันธ์ 1 ขันธ์ ได้แก่ รูปพรหมชั้นอสัญญีสัตว์ ที่มีแต่รูปขันธ์เพียงขันธ์เดียวอสัญญีสัตว์แปลตามศัพท์ว่า สัตว์ที่ไม่มีสัญญา โดยความหมายคือ มีแต่รูปขันธ์ไม่มีนามขันธ์ (นามขันธ์ดับชั่วคราวแต่เมื่อหมดอายุขัยของการเป็น
อสัญญีสัตว์แล้วไปเกิดในภพภูมิอื่นนามขันธ์ก็จะทำงานสืบเนื่องต่อไปในวัฏสงสาร) แต่ถึงกระนั้นก็จัดเป็นสิ่งมีชีวิต เป็นพรหมประเภทที่เรียกตามภาษาชาวบ้านว่าพรหมลูกฟัก ดำรงอยู่เหมือนฟักหรือน้ำเต้า ไม่มีความรู้สึกนึกคิด ไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆทั้งสิ้นอสัญญีสัตว์ คือบุคคลที่ได้จตุตถฌานแต่เกิดความรู้สึกเบื่อหน่ายในนามขันธ์เพราะพิจารณาว่ารูปขันธ์แม้จะไม่เที่ยงแต่ก็สามารถดำรงอยู่ได้เป็นเวลานานกว่านามขันธ์ซึ่งดำรงอยู่ได้เพียงขณะจิตเดียวก็เปลี่ยนแปลงไป ถือเป็นสิ่งไม่เที่ยงอย่างยิ่ง จึงกลับยินดีพอใจในรูปขันธ์ ด้วยเหตุที่กระทำไว้ในใจและยึดถืออยู่อย่างนี้ เมื่อตายหรือดับจิตลงในขณะที่จิตอยู่ในจตุตถฌาน จึงเกิดมาเป็นอสัญญีสัตว์